เจาะลึก E85 พลังงานทางเลือกที่คุณควรรู้!!!
ทุกวันนี้ไม่เห็นมีใครไม่บ่นเรื่องราคาน้ำมัน แพง
จะขึ้นทีลงที เรียกว่าเฮกันยกใหญ่
จนจับตาทุกฝีก้าวของบริษัทยักษ์ใหญ่พลังงานในไทย แต่ว่า
ทุกวันนี้พลังงานทางเลือกมีการรุดหน้าไปมาก หนึ่งในนั้นเป็นพลังงานทางเลือก
E85 ที่เริ่มมีมากขึ้นทุกวัน
น้ำมัน E85
เชื่อว่าหลายคนคงเริ่มคุ้นเคยมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากราคาน้ำมัน
และ
ความสามารถของรถยนต์หลายรุ่นทุกวันนี้ที่สามารถใช้พลังงานทางเลือกที่หลาก
หลายมากขึ้น
ราคาที่เพียงแค่ลิตรละประมาณ 25 บาท
ใช้ได้ยาวนานพอกับน้ำมันจริง หลายคนขับบอกว่ารู้สึกว่าแรงขึ้น
เคยตั้งตำถามไว้ไหม ว่าทำไม เพราะ และ แล้ว ทำไมถึงเรียก E85
แล้วต่างจากนั้นมันทั่วไปอย่างไร ได้เวลาที่คุณจะต้องรู้จักมันจริงๆเสียที
E85 ...ทีเด็ดพลังงานทางเลือก
ถ้า
พูดถึง คำว่า E85 แล้ว เราหลายคนน่าจะรู้จักมันพอสมควร บ้าง แต่ E85
เป็นชื่อที่ทดแทนจากการเรียกตามสวนผสมขงน้ำมันพลังงานทางเลือก
ซึ่งใช้เอทานอลซึ่งเป็นแอลลกฮอล์ที่ได้จากการสกัดจากพืช
ผสมเข้ากับเนื้อน้ำมันเบนซินออกเทน 95 ตั้งแต่อดีตมาจวบจนปัจจุบัน
น้ำมัน E85 ได้รับความนิยมอย่างมากในยุโรป
และเช่นเดียวกับในบางประเทศในแอฟริกาใต้ โดยเฉพาะในบราซิล
ซึ่งค่อนข้างให้ความสำคัญในเรื่องพลังงานทางเลือกตัวนี้
ส่วนในประเทศไทยพลังงานทางเลือก E85 ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
แต่เพิ่งจะมานิยมในพักหลัง
เนื่องจากการรองรับของรถยนต์ที่มีมากขึ้นในตลาดปัจจุบัน
ข้อดีของ E85 ไม่บอกก็คงรู้ว่ามันมีราคาค่อนข้างถูกพอสมควร
เมื่อเทียบกับน้ำมันทั่วไป โดยมีราคาถูกกว่าน้ำมันแก็สไซฮอล 95
ที่อัตราผสมเททานอลร้อยละ 10 ถึง 16 บาท และ ยังถูกกว่า E20
ซึ่งเป็นมาตรฐานในรถยนต์ปัจจุบันถึง 11.2 บาท (ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์)
จนพูดได้อย่างเต็มปากว่ามีความแตกต่างทางด้านราคาจนน่าพอใจ
แต่แม้จะเป็นน้ำมันที่มีราคาถูกจนน่าใจหาย
ซึ่งแม้แต่คอแก๊สยังชายตามามอง
แต่กลับมีสมรรถนะในการจุดวาบไฟหรือขุดระเบิดที่ดีกว่าด้วยค่าออกเทนถึง 105
ดีกว่าน้ำมันธรรมดาเสียอีก และยังปล่อยไอเสียต่ำกว่า
จึงไม่น่าแปลกใจที่มันจะได้รับความนิยม
ประหยัดกว่า ดีกว่า แต่ซดกว่า …จริงหรือเท็จ
ถึงทุกอย่างฟังดูน้ำมัน E85 จะมีภาษีดีว่าในทุกมุมมอง แต่ก็เฉกเช่นพลังงานทางเลือกหลายๆ ตัวที่เราคุ้นเคย น้ำมัน E85 นั้นมีความแตกต่างในเรื่องเนื้อน้ำมันที่สูบเข้าสู่เครื่องยนต์คุณ
เมื่อสักพักใหญ่มาแล้ว ทางผู้เขียนเคยได้ไปเยี่ยมชมโรงงาน
ผลิตเอทานอลรายใหญ่ของประเทศที่ชื่อ เพโทรกรีน โดยในครั้งนั้น
ได้มีโอกาสสอบถามตามความจริงที่เกิดขึ้นจากการใช้รถยนต์ ที่รองรับพลังงานทางเลือก E85 ซึ่งตามคำกล่าวของผู้ผลิตเองก็ยังยอมรับว่า การใช้พลังงานทางเลือก น้ำมัน E85 จะซดน้ำมันกว่าราว ร้อยละ 20
เนื่องจากจะต้องมีการจ่ายน้ำมันเข้าไปสู่ห้องเผาไหม้มากกว่า
โดยทางผู้ผลิตเองได้นำรถยนต์รุ่นหนึ่งในกลุ่มซิตี้คาร์
(ตอนนั้นยังไม่มีคันไหนสามารถใช้ E85 ได้
แต่ใช้วิธีการดัดแปลงให้สามารถรองรับได้ มาเปรียบเทียบหาอัตราประหยัดน้ำมัน
โดยจากการทดลอง ด้วยการเติมน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 91
รถจะมีอัตราประหยัดน้ำมันเมืองที่ 11 ก.ม./ลิตร และมีค่าใช้จ่าย กิโลเมตรละ
3.15 บาท/กิโลเมตร ส่วนนอกเมืองทำได้ 16 ก.ม./ลิตร
และมีค่าใช้จ่ายกิโลเมตรและ 2.17 บาท/ก.ม.
เช่นเดียวกันเมื่อเติมแก๊สโซฮอล์ E20
กลับมีอัตราประหยัดลดลงเหลือ 10.56 ก.ม./ลิตรและมีค่าใช้จ่ายราวๆ 3.05
บาทต่อกิโลเมตร ส่วนนอกเมืองมีอัตราประหยัด 15.36 กิโลเมตร/ลิตร
และมีค่าใช้จ่ายต่อการเดินทาง 2.10 บาท/กิโลเมตร
ส่วนท้ายสุด เติมพลังงานทางเลือก E85
ในเมืองมีอัตราประหยัดลดลงมาอยู่ที่ 8.25 กิโลเมตร/ลิตร
แต่กลับกันด้วยราคาน้ำมันที่ถูกลง ทำให้มีค่าใช้จ่ายเดินทางเพียง 2.59
บาท/กิโลเมตร และเช่นเดียวกันสำหรับนอกเมือง ลดลงเช่นกันจนมาอยู่ที่ 12
กิโลเมตร/ลิตร แต่มีราคาค่าใช้จ่ายในการเดินทางถูกลงเพียง 1.78
บาท/กิโลเมตร
รถใช้ E85 เรื่องนี้ต้องเข้าใจ
ฟังดูแล้วเรื่องน้ำมัน E85
ก็คงเป็นที่สนใจของใครหลายคนใช่น้อย
มาถึงตรงนี้เชื่อเลยว่าหลายคนอาจจะมองรถของตัวเองแล้วว่าจะทำอย่างไรให้ใช้
E85 ได้ ซึ่งที่จริงมันก็ไม่ยาก
แต่ไม่ใช่เพียงเขาบอกว่ากล่องเสียบแล้วใช้ได้
จะรีบหุนหันพันแล่นเสียงเงินโดยทันที
ที่จริงรถที่ใช้พลังงานทางเลือก E85 ได้นั้น ถูกเรียกว่า
Flex Fuel Vehicle หรือว่า FFV
ซึ่งหมายถึงเป็นรถยนต์ที่สามารถเติมน้ำมันได้หลากรูปแบบ ทั้งเบนซิน
และแก๊สโซฮอล ซึ่งแม้รถที่เราเห็นนี้จะมีหน้าตาคล้ายกับรุ่นที่เราขับ
แต่ก็ต้องมีการดัดแปลงในหลายๆ เรื่อง
เพื่อให้รองรับต่อการใช้งานพลังงานทางเลือกเช่นกัน
ในแง่หนึ่งด้วยส่วนผสมที่เป็นแอลกอฮอลล์มากกว่า
ทำให้น้ำมัน E85 มีคุณสมบัติกัดกร่อนมากกว่า
น้ำมันเบนซินทุกชนิดที่มีอยู่ในตลาด
ซึ่งทำให้ต้องมีการปรับแต่ชิ้นส่วนโดยเฉพาะส่วนประกอบที่เป็นยางต่างๆ
ซึ่งสัมผัสตรงต่อน้ำมัน เช่น โอริงหัวฉีด ท่อยางทางเดินน้ำมัน ทั้งหมดนี้
ต้องใช้ท่อที่มีคุณสมบัติทนฤทธิ์กัดกร่อนเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ ชุดถังน้ำมันก็ต้องเป็นวัสดุที่ทนการกัดกร่อน
เช่นถังพลาสติกแบบพิเศษ
รวมถึงปั้มเชื้อเพลิงที่คอยส่งตรงไปยังเครื่องยนต์ก็เช่นกัน
ควรจะรองรับการทนการกัดกร่อนของ E85
และท้ายสุดต้องมีตัวจูนการสั่งจ่ายน้ำมันซึ่งจะสามารถวัดอัตราส่วนผสมของ
น้ำมันในระบบได้
ไปประมวลผลต่อการสั่งจ่ายจากคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมเครื่องยนต์หรือ ECU
ฟังดูแล้วคงไม่หมูอย่างที่คิดเลยใช่ไหมครับ
..สำหรับการจะทำให้รถคันหนึ่งสามารถใช้พลังงานทางเลือกสุดเจ๋ง E85 ได้
ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงพวกกล่องที่ปรับให้รถคุณรองรับ E85
ได้ ราคา 3,000 ยันหลายหมื่น ว่าจะใชได้ได้หรือเปล่า
ถามว่าติดแล้วใช้ได้หรือไม่ .ได้แน่นอน
แต่ไม่ใช่ในระยะยาวยันชั่วลูกชั่วหลาน
เพราะไม่ชิ้นส่วนในเครื่องยนต์โดยเฉพาะท่อยาง
ก็ท่อยางจะต้องซาโยนาระก่อนแน่นอน
อย่างไรก็ดี แม้รถเก่าจะปรับแต่งยากหรือมีค่าใช้จ่ายสูง
แต่รถใหม่ทุกวันนี้หลายรุ่นเริ่มยอมรับพลังงานทางเลือกมากขึ้น
ซึ่งรถเหล่านี้หลายรุ่นก็ไม่ได้มีราคาที่แพงอย่างคิด และรถที่ใช้ E85
ได้ในบ้านเราทุกวันนี้ มีวางจำหน่ยมากขึ้นหลายยี่ห้อกว่าเดิม ได้แก่
- Chevrolet Sonic 1.6
- Chevrolet Captiva Gasoline
- Chevrolet Cruze
- Honda City 2014
- Honda Jazz 2014
- Honda Accord
- Honda CR-V
- Toyota Corolla 2014 รุ่น 1.8
- Volvo S60 DRIVe
- Volvo S80 DRIVe
และในอนาคตอันใกล้นี้ อาจจะมีตามออกมาเพื่อวางตลาดเพิ่มเติมอีกในอนาคต
แม้น้ำมัน E85 จะประหยัด จะดี แต่ทุกวันนี้ปัญหาหลักสำคัญ
ยังคงเป็นเรื่องจำนวนสถานีบริการที่ยังคงน้อยอยู่ในการหาเติม
แต่ที่ผ่านมาก็มีการพัฒนามากขึ้น
และถ้าคุณสนใจที่จะหันมาคบหาพลังงานที่มีความประหยัด และเปี่ยมด้วยสมรรถนะ
น้ำมัน E85 ก็เป็นทางออกที่ดีไม่น้อย
แก้ไขโดย : เดอะ เทรนนิ่ง โปร เลิร์นนิ่ง แอนด์ สกิล“The Training Pro Learning and Skills”
ขอบคุณที่มา : เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ข้อมูลบางส่วนจากการสัมมนา ของ บริษัท เพโทรกรีน จำกัด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น