วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2557

คนไทยจ่าย 25% กับน้ำมันแพง..?

คนไทยจ่าย 25% กับน้ำมันแพง..?
รายงานสำนักข่าวบลูมเบอร์ก ก.พ. 2556 ให้ข้อสรุปที่น่าสนใจว่า การดู “ความแพง” ของน้ำมันตามลำดับจากราคาใน 60 ประเทศนั้น ประเทศไทยอาจดูดีด้วยอันดับที่ 47 (ตารางส่วนที่๑ อันดับยิ่งต่ำยิ่งดี) แต่ต้องเปรียบเทียบกับ “ค่าครองชีพอันหมายถึงรายได้ต่อวันของประชากร” ด้วย ซึ่งพบว่าคนไทย “ใช้น้ำมันแพงมากที่สุดเป็นอันดับ 10 ของโลก โดยรายได้ต่อหัวต่อวันของคนไทยจะถูกแบ่งสรรปันสันส่วนไปจ่ายเป็นค่าน้ำมันมากถึง 25%” (ตารางส่วนที่ ๒)

หากข้อสรุปนี้ถูกต้อง ใครที่รายได้เท่ากับถัวเฉลี่ย 507 บาท/วัน แล้วจ่ายค่าน้ำมันถึง 127 บาท/วัน ควรจะต้องเปลี่ยนวิถีชีวิต เลิกขับรถไปทำงานแล้วหันมาให้รถเมล์ แค่รถไฟฟ้าหรือแท็กซี่ก็น่าจะประหยัดลงได้มาก

แต่ข้อสรุปดังกล่าวไม่ถูกต้อง เพราะราคาน้ำมันต่อลิตรไม่ใช่ค่าใช้จ่ายน้ำมันต่อวัน

การเปรียบเทียบที่เหมาะสมกว่าคือ ค่าใช้จ่ายน้ำมันเฉลี่ยต่อวัน หารด้วย รายได้เฉลี่ยต่อวัน เพราะภาระที่แท้จริงของค่าน้ำมัน (รายงานนี้หมายถึง เบนซิน หรือ Gasoline) เกิดจากการใช้จริงทั้งทางตรงและทางอ้อม และการใช้น้ำมันในแต่ละประเทศก็ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของระบบในประเทศนั้นๆ

หากดูค่าใช้จ่ายน้ำมันที่อยู่ในตารางส่วนที่ ๓ คิดจากปริมาณน้ำมันที่ใช้ต่อวันต่อประชากร(ข้อมูลกระทรวงพลังงาน) คูณราคาน้ำมัน แล้วหารด้วยรายได้เฉลี่ยของประชากร จะพบว่าคนไทยมีค่าใช้จ่ายเพียงประมาณ 2% ไม่ใช่ 25% จากรายได้ อยู่ในอันดับที่ 26 ในขณะที่มาเลเซีย ซึ่งมีรายได้สูงกว่าไทยเกือบเท่า และ ค่าน้ำมันก็ต่ำกว่าเกือบเท่าตัว กลับติดอันดับที่ 19 ซึ่งแย่กว่าของไทย สิงคโปร์ซึ่งมีราคาน้ำมันสูงกว่ามาเลเซียเกือบ 3 เท่ารายได้สูงมากกว่า 4 เท่าตกอยู่ในอันดับที่ 55 ซึ่งก็ดีกว่าอันดับในส่วนที่ ๒

ไฉนกลับตาลปัตร? ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นคือ มาเลเซียราคาน้ำมันถูกมากทำให้การใช้ฟุ่มเฟือย ทั้งมีการลักลอบใช้ผิดประเภท จึงทำให้ค่าใช้จ่ายเป็น 2.2% (สูงกว่าไทย) ส่วนสิงคโปร์เป็นประเทศเล็กๆที่ระบบขนส่งมวลชนกว้างขวาง รัฐสร้างแรงจูงใจให้คนประหยัดน้ำมันเพราะราคาแพงแล้วยังมีการเก็บภาษีการใช้รถในเขตเมืองชั้นในอีกด้วย

ทำไมราคาน้ำมันไทยแพงกว่ามาเลเซียมาก? นอกจากราคาเนื้อน้ำมันที่ใกล้เคียงกันแล้ว ประเทศไทยมีทั้งกองทุนและภาษี ผู้ใช้เบนซินถูกเก็บเงินเข้ากองทุนเพื่อช่วยอุดหนุนราคา LPG ทำให้เบนซินแพงขึ้น ในขณะที่มาเลเซียฝ่ายรัฐส่วนกลางเขาอุดหนุนราคาน้ำมันที่ขายตามสถานีบริการ ทำให้เบนซินถูกลง แต่ก็เริ่มมีการพิจารณาจะลดจะเลิก เพราะภาระต่องบประมาณและมีการรั่วไหลจากหน้าปั้มไปอุตสาหกรรมที่เป็นราคาตลาดแล้วยังมีการลักลอบไปขายประเทศเพื่อนบ้านอย่างเช่นไทยที่ราคาแพงกว่าด้วย

พัฒนาการของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะทำให้ภาษีอากรของคนมาเลเซียรั่วไหลมากขึ้น ทำนองเดียวกับที่ LPG ของไทยราคาถูกจึงมีการขายผิดประเภท โกงเงินกองทุน และลักลอบไปขายในเขมร ลาว พม่าเพราะของเขาแพงกว่าเรามาก ทำให้คนไทยต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันไปจุนเจือประเทศเพื่อนบ้าน

ทำไมมาเลเซียอุดหนุนราคาน้ำมันให้ประชาชนใช้ถูกๆได้ แต่รัฐบาลไทยไม่ยอมทำ? สิ่งแรกที่ต้องตระหนักคือ ศักยภาพการผลิตน้ำมันเทียบกับการใช้ในประเทศต่างกันมาก ขณะที่มาเลเซียผลิตน้ำมันได้พอใช้เองและมีเหลือส่งออกสุทธิ 84,496 บาร์เรล/วัน ประเทศไทยผลิตได้ไม่ใช้ต้องนำเข้าสุทธิมากถึง 820,366.0 บาร์เรล / วัน

และใต้พิภพของแต่ละประเทศก็มีศักยภาพในการผลิตปิโตรเลียมแตกต่างกัน อาจเปรียบได้กับที่คนเรามองดูภายนอกมีศีรษะขนาดเท่าๆกัน แต่ศักยภาพของสมองที่อยู่ภายในแตกต่างกันได้มากแม้การศึกษาเลี้ยงดูจะเหมือนกันก็ตาม กรุณาอย่าหลงเชื่อว่าไทยรวยน้ำมันอย่างบางประเทศ แล้วที่เราขุดได้น้อยและได้ผลตอบแทนน้อยกว่าบางประเทศ (คือ ถัวเฉลี่ย57.6% หรือ 71.7% เฉพาะระบบ Thailand III ที่ใช้กับสัมปทานตั้งแต่ปี 2532 จนถึงปัจจุบัน ต่ำกว่า 85%ในบางประเทศ) แปลว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมาต้องโกงกันหมด

อันที่จริงรัฐบาลไหนๆก็สามารถจัดให้มีการอุดหนุนราคาน้ำมันให้ถูกๆได้ แต่เป็นเรื่องของนโยบายและการจัดลำดับความสำคัญ เพราะภาษีและรายได้ของรัฐมีจำกัด ซึ่งรวมถึงภาษีอากรและเงินปันผลจากรัฐวิสาหกิจอย่าง ปตท.ด้วย ผู้บริหารประเทศต้องดูว่าใช้เงินทำอะไรจะคุ้มค่าในการสร้างความอยู่ดีมีสุขแก่ประชาชนและความเจริญทางเศรษฐกิจซึ่งก็จะส่งผลถึงรายได้ของประชากรในที่สุด

นอกจากนี้ถ้าตั้งราคาน้ำมันให้ถูกๆ ก็อาจทำให้การใช้ไม่มีประสิทธิภาพ ดังที่เคยอธิบายในบทความก่อนหน้านี้ และตามข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับการตกอันดับของประเทศมาเลเซียข้างต้น

ที่มา.https://www.facebook.com/notes/อานิก-อัมระนันทน์/คนไทยจ่าย-25-กับน้ำมันแพง..?
----------------------------------------------------------------------------------------------
สอบถามรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่.
ติดต่อ คุณ ณัฐชยา
E-mail: t.training.pro@gmail.com
Web Site: http://www.pumpprogress.com/
Web Blog: http://thetraining-pro.blogspot.com/
edit @ by The Training Pro Learning & Skills
Tel..: 02 926 7121
Mobile..: 089 455 7878
Fax..: 02 926 7122
Address.: 2/45 Moo 6, Jittakarn Village, Talingchan-Suphanburi Road, Tambol Sao-Thong-Hin, Amphure Bangyai, Nonthaburi, 11140 Thailand.
----------------------------------------------------------------------------------------------
Follow Us :
Blogger-IconFacebook-IconGoogle-Plus-IconPinterestTwitter-IconYouTube-Icon
----------------------------------------------------------------------------------------------
Tag:ฝึกอบรม,การอบรม,Training,Learning,Skills,สัมมนา,ประชาสัมพันธ์,สื่อโฆษณา,การเรียนรู้,การฝึกทักษะ,เสริมสร้างสติปัญญา,ค้นคว้าหาความรู้,เรียนรู้,ฝึกสมอง,เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ,รอบรู้เรื่องงานซ่อม,งานซ่อมบำรุง,ตู้จ่ายน้ำมัน,ตู้น้ำมัน,ตู้เติมน้ำมัน,ปั๊มน้ำมัน,ปั๊ม,ปั้ม,ปั้มน้ำมัน,มือจ่ายน้ำมัน,มิเตอร์น้ำมัน,สายน้ำมัน,ถังน้ำมัน,น้ำมันเบนซิล,ดีเซล,เติมน้ำมัน,แกลลอนน้ำมัน,ปั๊มสูบจ่ายน้ำมัน,ปั๊มเคลื่อนที่,รถน้ำมันเชื้อเพลิง,รถจ่ายน้ำมัน,รถเติมน้ำมัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...