สถานีบริการน้ำมันที่จะเปิดบริการต้องมีความปลอดภัยตามกฎของกรมโยธาธิการ
โดยเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง "ประเภทที่ 1
และ ประเภทที่ 2" ดังนี้
1.
สถานที่ตั้งสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงต้องมีทางเข้าออกติดหรือเชื่อมกับ
ถนนหลวงหรือถนนสาธารณะที่มีความกว้างไม่น้อยกว่า 8-12 เมตร
ทางเข้าออกมีขนาดกว้างพอให้รถผ่านเข้าออกได้สะดวก
ไม่อนุญาตให้สร้างสถานีบริการน้ำมันบริเวณทางโค้ง
เพราะเป็นจุดที่ล่อแหลมต่อการเกิดอุบัติเหตุ
ภายในเขตสถานีบริการต้องไม่มีอาคารอื่นใดนอกจากอาคารบริการสูงไม่เกิน 2
ชั้น สร้างด้วยวัสดุถาวรและทนไฟเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีชั้นลอย
และจัดระยะห่างระหว่างอาคารเหมาะสม นอกจากนี้
เครื่องสูบและตู้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงต้องอยู่ห่างจากริมผนังของอาคารบริการ
ไม่น้อยกว่า 4 เมตร
และตู้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงต้องยึดแน่นอยู่บนแท่นคอนกรีตสูงกว่าระดับพื้น
โดยรอบไม่น้อยกว่า 20 เซนติเมตร มีแสงสว่างเพียงพอในยามค่ำคืน
หรือติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิดเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
2.ภาย
ในสถานีบริการต้องติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ
เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการจ่ายน้ำมัน และต้องตรวจตราความเรียบร้อยอยู่เสมอ
อาทิ เครื่องวัดระดับน้ำมันในถังใต้ดิน ในแต่ละวัน
พนักงานต้องเช็กปริมาณน้ำมันจากเครื่องวัดระดับน้ำมันในถังใต้ดิน
เพื่อสังเกตดูว่าเกิดการรั่วไหลออกมาภายนอกหรือไม่
และตรวจสอบอุณหภูมิภายในถังให้อยู่ในภาวะ ปกติ
ทั้งมีระบบสวิตซ์ฉุกเฉินของวงจรไฟฟ้าที่จะพร้อมทำงานทันทีเมื่อเกิดเหตุฉุก
เฉิน
ในส่วนของหัวจ่ายจะมีอุปกรณ์หยุดการไหลของน้ำมันเชื้อเพลิงโดยอัตโนมัติ
เพื่อป้องกันมิให้น้ำมันเชื้อเพลิงล้นถังในขณะเติมน้ำมัน
หัวจ่ายถูกออกแบบมาเพื่อไม่ให้ลื่นไหลหลุดจากช่องเติมน้ำมันได้ง่าย
3.จัด
เก็บสารเคมีอันตรายอย่างเป็นระบบชัดเจน
สารเคมีอันตรายต้องจัดเก็บในห้องอย่างมิดชิด
เชื้อเพลิงที่มีจุดวาบไฟสูงอย่างน้ำมันเบนซินต้องเก็บไว้ในถังใต้ดิน
เป็นถังที่มีผนังหรือชั้นที่ออกแบบคำณวนและผ่านการทดสอบตามมาตรฐานสากลเพื่อ
ความปลอดภัย โดยเชื้อเพลิงจะติดไฟได้ก็เมื่อมีองค์ประกอบ 3 อย่าง คือ
ไอน้ำมัน อากาศ และความร้อนที่ถึงจุดวาบไฟหรือประกายไฟ
วิธีลดความเสี่ยงคือแยกสิ่งทั้ง 3 ออกจากกัน
ความร้อนที่ถึงจุดวาบไฟจะเป็นตัวที่ควบคุมได้ง่ายที่สุด
ดังนั้นการเก็บถังน้ำมันใต้ดินนับเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแยกไอน้ำมันเชื้อ
เพลิงออกจากอากาศและประกายไฟ
และต่อท่อหายใจจากถังน้ำมันเพื่อเป็นทางระบายและควบคุมความดัน
เพื่อความปลอดภัยต่อถังน้ำมัน
4.มีอุปกรณ์ดับเพลิงเตรียม
พร้อมบริเวณลานจ่ายเสมอ โดยกฎหมายกำหนดว่า ต้องมีเครื่องดับเพลิงอย่างน้อย 2
เครื่อง ต่อตู้จ่ายน้ำมัน 1-4 ตู้จ่าย และ 3 เครื่องต่อตู้จ่าย 5-8
ตู้จ่าย หากมีตู้จ่ายเกิน 8 ตู้จ่าย ให้ติดเครื่องดับเพลิงเพิ่ม 1
เครื่องต่อทุกๆ 3 ตู้จ่าย
5.ความรับผิดชอบของบริษัทน้ำมันก็มีส่วนสำคัญ โดยการควบคุมไอน้ำมันเชื้อเพลิงใน 2 ระดับ
- ระดับที่หนึ่งจะควบคุมไอน้ำมันที่เกิดขึ้นที่เกิดขึ้นจากการจ่ายน้ำมันที่คลังและขณะลงน้ำมันในสถานีบริการ
- ระดับ
ที่สองจะควบคุมระหว่างจ่ายน้ำมันจากตู้จ่ายลงสู่รถ
ส่วนที่สำคัญที่สุดของอุปกรณ์กักไอน้ำมัน
*** ระดับที่หนึ่ง
คือตัวที่เรียกว่าพีพีวาล์ว
เป็นตัวควบคุมไอน้ำมันไม่ให้ออกสู่สิ่งแวดล้อมและช่วยควบคุมความดันในขณะที่
มีการจ่ายน้ำมัน
6.ติดตั้งอุปกรณ์ระบบความปลอดภัยอื่นๆ
ในสถานีบริการ เช่น การติดตั้งสายดินบริเวณต่างๆ อย่างจุดที่ลงน้ำมัน
บริเวณท่อรับไอน้ำมันสู่ถังรถ หรือบริเวณตู้จ่ายสายมือจ่าย
เพื่อป้องกันไฟฟ้าสถิตที่สะสมอยู่ในท่อขณะลงน้ำมันซึ่งเป็นตัวที่ทำให้เกิด
ประกายไฟและการลุกไหม้
7.พนักงานควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดในขณะให้บริการผู้ขับขี่เพื่อความปลอดภัย และผู้รับบริการก็ควรจะปฏิบัติตามคำเตือน
แก้ไขโดย : เดอะ เทรนนิ่ง โปร เลิร์นนิ่ง แอนด์ สกิล“The Training Pro Learning and Skills”
ขอบคุณที่มา : ที่มา ข่าวสดออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น