วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ก๊าซธรรมชาติ มันคืออะไรกัน !

รูปแหล่งที่มาของก๊าซธรรมชาติ
ขอบคุณ.รูปภาพจากอินเตอร์เน็ท
ก๊าซธรรมชาติคืออะไร ** 
          ก๊าซ ธรรมชาติ เป็นพลังงานปิโตรเลียมชนิดหนึ่ง เช่นเดียวกับน้ำมัน ที่จริง น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน ก็คือ ซากพืชและซากสัตว์ที่ทับถมกันมานานหลายแสนหลายล้านปี และทับถมสะสมกัน จนจมอยู่ใต้ดิน แล้วเปลี่ยนรูปเป็นสิ่งที่เรียกว่า ฟอสซิล ระหว่างนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ จนซากสัตว์และซากพืชหรือฟอสซิลนั้นกลายเป็นน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน ที่เรานำมาใช้ประโยชน์ได้ในที่สุด เราจึงเรียกเชื้อเพลิงประเภทน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน ว่า เชื้อเพลิงฟอสซิลในทางวิทยาศาสตร์ เรารู้กันดีว่า ต้นพืชและสัตว์ รวมทั้งคน ประกอบด้วยเซลล์เล็กๆ มากมาย เซลล์เหล่านี้ประกอบด้วยธาตุไฮโดรเจนและธาตุคาร์บอนเป็นหลัก เวลาซากสัตว์และซากพืชทับถมและเปลี่ยนรูปเป็นน้ำมันหรือก๊าซธรรมชาติหรือ ถ่านหิน พวกนี้จึงมีองค์ประกอบของสารไฮโดรคาร์บอนเป็นส่วนใหญ่ และเมื่อนำไฮโดรคาร์บอนเหล่านี้มาเผา จะให้พลังงานออกมาแบบเดียวกับที่เราเผาฟืน เพียงแต่เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น น้ำมันก๊าซธรรมชาติ หรือถ่านหิน ให้ความร้อนมากกว่า
          ก๊าซธรรมชาติมี ก๊าซหลายอย่างประกอบเข้าด้วยกัน มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า มีเทน อีเทน โพรเพน บิวเทน ฯลฯ แต่โดยทั่วไปจะประกอบด้วยก๊าซมีเทนเป็นส่วนใหญ่ คือ ร้อยละ 70 ขึ้นไป ก๊าซพวกนี้เป็นสารไฮโดรคาร์บอนทั้งสิ้น เมื่อจะนำมาใช้ ต้องแยกก๊าซออกจากกันเสียก่อน จึงจะใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ นอกจากสารไฮโดรคาร์บอนแล้ว ก๊าซธรรมชาติยังอาจประกอบด้วยก๊าซอื่นๆ อาทิ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไฮโดรเจนซัลไฟด์ ไนโตรเจน และน้ำ เป็นต้น สารประกอบเหล่านี้สามารถแยกออกจากกันได้ โดยนำมาผ่านกระบวนการแยกที่โรงแยกก๊าซธรรมชาติ ก๊าซที่ได้แต่ละตัวนำไปใช้ประโยชน์ต่อเนื่องได้อีกมากมาย

คุณสมบัติทั่วไปของก๊าซธรรมชาติ
          - เป็นเชื้อเพลิงปิโตรเลียมชนิดหนึ่งเกิดจากการทับถมของสิ่งมีชีวิตนับล้านปี
          - เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนประกอบด้วยก๊าซมีเทนเป็นหลัก
          - ไม่มีสีไม่มีกลิ่นปราศจากพิษ( ส่วนมากกลิ่นที่เราคุ้นเคยจากก๊าซธรรมชาติเป็นผลมาจากการเติมสารเคมีบาง ประเภทลงไปเพื่อให้ผู้ใช้รู้ได้ทันท่วงทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ก๊าซรั่ว)
          - เบากว่าอากาศ(ความถ่วงจำเพาะ0.5-0.8 เท่าของอากาศ)
          - ติดไฟได้โดยมีช่วงของการติดไฟที่5-15% ของปริมาตรในอากาศและอุณหภูมิที่สามารถติดไฟได้เองคือ537-540 องศาเซลเซียส

คุณประโยชน์ของก๊าซธรรมชาติ
          - เป็นเชื้อเพลิงปิโตรเลียมที่นำมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงมีการเผาไหม้สมบูรณ์
          - ลดการสร้างก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน
          - มีความปลอดภัยสูงในการใช้งานเนื่องจากเบากว่าอากาศจึงลอยขึ้นเมื่อเกิดการรั่ว
          - มีราคาถูกกว่าเชื้อเพลิงปิโตรเลียมอื่นๆเช่นน้ำมันน้ำมันเตาและก๊าซปิโตรเลียมเหลว
          - สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มช่วยขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
          - ก๊าซธรรมชาติส่วนใหญ่ที่ใช้ในประเทศไทยผลิตได้เองจากแหล่งในประเทศจึงช่วยลด การนำเข้าพลังงานเชื้อเพลิงอื่นๆ และประหยัดเงินตราต่างประเทศได้มาก

การใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์(NGV)
          Natural Gas for Vehicles ( NGV ) คือก๊าซธรรมชาติที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับยานยนต์โดยก๊าซNGVนี้มีมีส่วน ประกอบหลักคือก๊าซมีแทนที่มีคุณสมบัติเบากว่าอากาศส่วนใหญ่จะมีการใช้อยู่ใน สภาพเป็นก๊าซที่ถูกอัดจนมีความดันสูง(ประมาณ3,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว)เก็บไว้ในถังที่มีความแข็งแรงทนทานสูงเป็นพิเศษเช่นเหล็ก กล้าบางครั้งเรียกก๊าซนี้ว่าCNG ( Compressed Natural gas ) หรือ
ก๊าซ ธรรมชาติอัดการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์มีข้อดีคือเกิดการ เผาไหม้สมบูรณ์ให้มลพิษต่ำโดยเฉพาะปริมาณฝุ่นละออง( Particulate ) และควันดำ

รูปแบบการใช้NPG กับรถยนต์
          • รถยนต์ใช้ก๊าซNGV เป็นเชื้อเพลิงอย่างเดียว( Dedicated NGV )ส่วนใหญ่ผลิตจากโรงงานโดยตรงใช้เครื่องยนต์ที่ออกแบบและพัฒนาขึ้นสำหรับใช้ก๊าซธรรมชาติโดยเฉพาะ
          • รถยนต์ใช้ก๊าซNGV ระบบเชื้อเพลิงทวิ( Bi-Fuel System )ซึ่งระบบที่สามารถเลือกใช้น้ำมันเบนซินหรือใช้NGV เป็นเชื้อเพลิงได้โดยเพียงแต่ปรับสวิตช์เลือกใช้เชื้อเพลิงเท่านั้น
          • รถยนต์ใช้ก๊าซNGV ระบบเชื้อเพลิงผสม( Dual-fuel system )ซึ่งเป็นระบบใช้น้ำมันดีเซลผสมก๊าซNGV โดยใช้ร่วมกัน

1. ระบบความปลอดภัยความปลอดภัยของระบบเชื้อเพลิงก๊าซNGV SAFETY ADVICE )
          ระบบBRC / NGV ได้ถูกออกแบบตามมาตรฐานที่ให้ความปลอดภัยสูงตามมาตรฐานความปลอดภัยของ ยุโรปECE R110ทำให้รถของท่านมีความปลอดภัยสูงสุดและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ก๊าซธรรมชาติเป็นก๊าซประเภท( NON - TOXIC) และ ไม่เป็นอันตรายต่อการสูดหายใจเข้าไปในปริมาณความเข้มข้นต่ำและก๊าซธรรมชาติ มีน้ำหนักเบากว่าอากาศดังนั้นเมื่อมีการรั่วตามจุดข้อต่อต่างๆก๊าซธรรมชาติ จะลอยขึ้นสู่อากาศไม่สะสมในรถยนต์
          • กรณีที่สงสัยหรือพบว่ามีการรั่วไหลของก๊าซธรรมชาติควรจอดรถในที่โล่ง, ดับเครื่องยนต์และปิดวาล์วมือที่ถังบรรจุก๊าซธรรมชาติจากนั้นปรับไปใช้เชื้อ เพลิงแก๊สโซลีนและนำรถยนต์ของท่านไปตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญที่ได้มาตรฐาน
          • เมื่อเติมก๊าซธรรมชาติให้เปิดฝาครอบพลาสติกที่ครอบหัวเติมก๊าซจะมีสวิตช์ที่ การทำงานตัดระบบของเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติเครื่องยนต์จะสตาร์ทไม่ติด

2. การซ่อมบำรุงการปรับเปลี่ยน(CONVERSION MAINTENANCE)
          อุปกรณ์ เสริมเพื่อใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติในรถของท่านต้องการการซ่อมบำรุงเพียง เล็กน้อยเท่านั้นคำแนะนำนี้จะช่วยให้รถของท่านทำงานด้วยสมรรถนะที่ดีที่สุด

การตรวจสอบระยะ1,000 กิโลเมตร          เมื่อ เครื่องยนต์ติดตั้งระบบNGV และใช้งานแล้วประมาณ1,000 กิโลเมตรกรุณานำรถเข้าศูนย์เพื่อทำการปรับตั้ง(JUNE UP) และเพื่อตรวจสอบการทำงานอีกครั้งทั้งระบบโปรดติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญหรือ ศูนย์บริการเพื่อทำการตรวจสอบรถของท่าน( ดูรายการตรวจสอบที่1000 กิโลเมตรในหัวข้อตารางการซ่อมบำรุง)การตรวจสอบประจำปีการตรวจสอบระบบเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาตินั้นควรมีการตรวจสอบทุกปี
( ดูรายการตรวจสอบประจำปีในหัวข้อตารางการซ่อมบำรุง)

ถังบรรจุเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ
วนอุปกรณ์ระยะเวลา
          - รักษาระบบการจุดระเบิด(IGNITION SYSTEM)ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์(ดูตารางการซ่อมบำรุงจากคู่มือการใช้รถของท่าน)
          - เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่บริษัทผู้ผลิตแนะนำ
          - เปลี่ยนกรองอากาศทุก20,000-30,000กิโลเมตรหรือตามความจำเป็น
          - ทำความสะอาดกรองอากาศทุกๆอาทิตย์
          - เปลี่ยนกรองก๊าซNGV ทุก40,000 กิโลเมตรหรือทุก1 ปี
          - เปลี่ยนหัวเทียนทุกๆ30,000กิโลเมตร
          - ตรวจสอบข้อต่อและอุปกรณ์NGV(ยกเว้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้า)ด้วยน้ำสบู่ทุกๆเดือน
          - ทำการใช้ระบบเชื้อเพลิงอย่างน้อย10 กิโลเมตร/วัน
          - ตรวจสอบตั้งค่าการทำงานในระบบเชื้อเพลิงNGVเมื่อมีการซ่อมแซมเครื่องยนต์ใหม่
          - การตรวจสอบถังบรรจุเชื้อเพลงก๊าซธรรมชาติNGVต้องทำการตรวจและรับรองทุกๆ5 ปี

ก๊าซปิโตเลียมเหลวกับก๊าซหุงต้ม( LPG )
          ก๊าซ หุงต้มมีชื่อเป็นทางการว่าก๊าซปิโตรเลียมเหลว( liquefied petroleum gas : LPG ) หรือเรียกย่อๆว่าแอลพีจีเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการแยกน้ำมันดิบในโรงกลั่น น้ำมันหรือการแยกก๊าซธรรมชาติในโรงแยกก๊าซธรรมชาติก๊าซปิโตรเลียมเหลวประกอบ ด้วยส่วนผสมของไฮโดรคาร์บอน2 ชนิดคือโพรเพนและบิวเทนในอัตราส่วนเท่าใดก็ได้หรืออาจจะเป็นโพรเพนบริสุ ทธิ์100% หรือบิวเทนบริสุทธิ์100% ก็ได้สำหรับในประเทศไทยก๊าซหุงต้มส่วนใหญ่ได้จากโรงแยกก๊าซธรรมชาติโดยใช้ อัตราส่วนผสมของโพรเพนและบิวเทนประมาณ70:30 ซึ่งจะให้ค่าความร้อนที่สูงทำให้ผู้ใช้ประหยัดเวลาและค่าเชื้อเพลิง
ก๊าซ ปิโตรเลียมเหลวสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงในการหุงต้มในครัวเรือนในโรงงาน อุตสาหกรรมและในยานพาหนะได้เช่นเดียวกับก๊าซธรรมชาติที่สามารถใช้เป็นเชื้อ เพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมและในยานพาหนะแต่ในประเทศไทยยัง ไม่มีการนำก๊าซธรรมชาติมาใช้งานในครัวเรือนโดยตรงด้วยคุณสมบัติในการเป็น เชื้อเพลิงติดไฟของก๊าซธรรมชาติและก๊าซหุงต้มเพื่อความปลอดภัยผู้ใช้ต้องใส่ ใจในการปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยในการใช้งานอย่างเคร่งครัด

คุณสมบัติทั่วไปของLPG
          • เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนประกอบด้วยก๊าซโพรเทนและนิวเทนเป็นหลัก
          • ไม่มีกลิ่นไม่มีสีปราศจากพิษ( แต่โดยทั่วไปจะเติมสารเคมีเพื่อความปลอดภัย)
          • หนักกว่าอากาศ
          • ติดไฟได้ในช่วงของการติดไฟที่215 % ของปริมาณในอากาศและอุณหภูมิที่ติดไฟได้เองคือ400 c ํ

คุณประโยชน์ของก๊าซLPG
          • เป็นเชื้อเพลิงที่นำมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงมีการเผาไหม้สมบูรณ์
          • ลดการสร้างก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะไอกรีน
          • มีราคาถูก9.5 ( 05/08/48 )
          • ก๊าซอยู่ในสภาพแรงดันต่ำ180 psi 
          • อัตราการสิ้นเปลืองก๊าซเทียบเท่ากับการใช้น้ำมันเบนซิน
          • อุปกรณ์มีราคาถูกกว่าอุปกรณ์ก๊าซNGV

ข้อเปรียบเทียบก๊าซธรรมชาติก๊าซหุงต้ม(LPG)
          ความปลอดภัยมีความปลอดภัยสูงเนื่องจากเบากว่าอากาศเมื่อเกิดการรั่วไหลจะลอยขึ้น สู่อากาศทันทีเนื่องจากหนักกว่าอากาศเมื่อเกิดการรั่วไหลจะกระจายอยู่ตาม พื้นราบความพร้อมในการนำมาใช้งานสถานะเป็นก๊าซนำไปใช้ได้เลยสถานะเป็นของเหลวต้องทำให้เป็นก๊าซก่อนนำไปใช้งาน ประสิทธิภาพการเผาไหม้เผาไหม้ได้สมบูรณ์เผาไหม้ได้สมบูรณ์คุณลักษณะของเชื้อเพลิงไม่มีสีไม่มีกลิ่นเผาไหม้
ปราศจากเขม่าและกำมะถันไม่มีสีไม่มีกลิ่นแต่โดยทั่วไปจะเติมสารเคมีเพื่อความปลอดภัยจำนวนสถานีบริการ36 แห่ง( กค48) กว่า200 แห่งทั่วประเทศ

1. ระบบความปลอดภัยความปลอดภัยของระบบเชื้อเพลิงก๊าซ( LPG SAFETY ADVICE )
ระบบLPG ซึ่งผลิตโดยBRC ได้ถูกออกแบบตามมาตรฐานที่ให้ความปลอดภัยสูงตามมาตรฐานความปลอดภัยของ ยุโรปECE 67 ซึ่งทำให้รถของท่านมีความปลอดภัยสูงและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ 
     • กรณีที่สงสัยหรือพบว่ามีการรั่วไหลของแก๊สควรปฏิบัติดังนี้
          1.ดับเครื่องยนต์และเคลื่อนย้ายไปที่อากาศถ่ายเท
          2.ปิดวาล์วทันทีเมื่อพบแก๊สรั่ว(มีกลิ่นเหม็น)หรือได้ยินเสียงรั่วซึม
          3.หยุดการกระทำที่อาจเกิดประกายไฟตรวจหาจุดรั่วซึมและแก้ไขจนกว่ามีการรั่วซึม
          4.หากทำการแก้ไขด้วยตัวเองไม่ได้ทำการสับสวิทช์มาใช้เบนซินและนำรถมาซ่อมที่ศูนย์ติดตั้ง 

2. การซ่อมบำรุงการปรับเปลี่ยน(CONVERSION MAINTENANCE) 
อุปกรณ์ เสริมเพื่อใช้เชื้อเพลิงแก๊สLPG ในรถของท่านต้องการการซ่อมบำรุงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นคำแนะนำนี้จะช่วยให้รถ ของท่านทำงานด้วยสมรรถนะที่ดีที่สุด

ตารางการดูแลและบำรุงรักษาที่ควรทำเป็นประจำ (REGULAR MAINTENANCE)
          - รักษาระบบการจุดระเบิด(IGNITION SYSTEM)ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ดูตารางการซ่อมบำรุงจากคู่มือการใช้รถของท่าน)
          - เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่บริษัทผู้ผลิตแนะนำ
          - เปลี่ยนกรองอากาศทุก20,000- 30,000 กิโลเมตรหรือตามความจำเป็น
          - ทำความสะอาดกรองอากาศทุกๆอาทิตย์
          - เปลี่ยนกรองก๊าซLPG ทุก40,000 กิโลเมตรหรือทุก1 ปี
          - เปลี่ยนหัวเทียนทุกๆ30,000 กิโลเมตร
          - ตรวจสอบข้อต่อและอุปกรณ์LPG
(ยกเว้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้า)ด้วยน้ำสบู่ทุกๆเดือน
          - ทำการใช้ระบบเชื้อเพลิงอย่างน้อย10 กิโลเมตร/วัน
          - ตรวจสอบตั้งค่าการทำงานในระบบเชื้อเพลิงLPGเมื่อมีการซ่อมแซมเครื่องยนต์ใหม่
          -การตรวจสอบถังบรรจุเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติอายุไม่เกิน10 ปี
( ไม่ต้องตรวจและทดสอบ) อายุเกิน10 ปี ( ต้องตรวจและทดสอบทุก5 ปี)
-----------------------------------------------------
เว็บไซต์ การแข่งขัน SEO ของนักศึกษา NIDA
ทีมงาน NIDAITM CONTEST2
ที่มาบทความ บทความของนักศึกษานิด้า NIDAITM CONTEST2

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...