ปัจจุบันนี้เรื่องของความซื่อสัตย์เป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมาก ไม่ว่าองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างก็ต้องการคนที่มีความซื่อสัตย์เข้ามาทำงานด้วย แต่ในทางปฏิบัติจริงนั้น บ้านเราเองก็ยังมีปัญหาในเรื่องนี้อยู่พอสมควร วันนี้ก็เลยเอานิทานเรื่องราวเกี่ยวกับความซื่อสัตย์มาให้อ่านกัน ผมคิดว่าอาจจะมีหลายท่านที่เคยได้อ่านนิทานเรื่องนี้ไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังเป็นนิทานที่ให้ข้อคิดกับเราได้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะอ่านไปแล้วกี่รอบก็ตาม
แต่ก่อนนานมาแล้ว ยังมีชายชราคนหนึ่ง แก่มากจนตัวเองก็จำไม่ได้เช่นกันว่าตัวเองอายุเท่าไรแล้ว ใบหน้าของแกอิ่มเอิบเปล่งประกายเลือดฝาด เคราสีเงินยวงสะอาดตาของแกยาวปกคลุมมาถึงหน้าอก ร่างกายของแกแข็งแรงมาก ตาก็ยังไม่ฝ้าฟาง หูก็ยังไม่หนวก แกมีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง แต่แกก็ยังเป็นคนจัดการทุกสิ่งทุกอย่างภายในกิจการของครอบครัว ปีนี้แกตัดสินใจว่าจะเลือกใครคนหนึ่งจากลูกชาย 15 คน ของแก มาสืบทอดภารกิจในการบริหารกิจการนี้เสียที แต่ว่า จะเลือกใครดีล่ะ
วันนี้ แกคิดวิธีที่ดีที่สุดได้แล้ว จึงสั่งให้ลูกชายทั้ง 15 คนมาพบ แล้วแจกเมล็ดดอกไม้ให้ลูก ๆ คนละ 1 เมล็ด หากใครสามารถปลูกเมล็ดพืชเม็ดนี้ให้งอกงามจนออกดอกบานสะพรั่ง คนนั้นก็จะได้เป็นผู้สืบทอดมรดกของแก ลูก ๆ ได้เมล็ดพืชมาแล้ว ต่างนำไปปลูกและดูแลอย่างเอาใจใส่เป็นอย่างดี
ลูกชายคนเล็กของชายชราผู้นี้มีชื่อว่า “เสี่ยวเหลียงจือ” เมื่อได้เมล็ดดอกไม้แล้ว แกก็นำไปปลูกในกระถาง รดน้ำเอาใจใส่อย่างดีทุกวันทุกคืน แต่เมล็ดพืชเม็ดนั้นก็ยังคงไม่แตกกล้าสักที เสี่ยวเหลียงจือรู้สึกเศร้าโศกเสียใจมาก
เวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ฤดูร้อนย่างกรายมาถึงแล้ว ชายชราผู้เป็นพ่อกำหนดว่าวันนี้จะเป็นวันคัดเลือกกระถางดอกไม้ของลูก ๆ ทุกคนต่างอุ้มกระถางดอกไม้ที่ออกดอกบานสะพรั่งอย่างสวยสดงดงามมาให้ผู้เป็นพ่อชม เพื่อรอการคัดเลือก
ชายชราเดินตรวจดอกไม้ที่สวยงามในมือของลูก ๆ ด้วยสีหน้าที่ไม่มีแววยินดีแม้แต่น้อย แกเดินตรวจจากบุตรชายคนโตมาจนถึงบุตรชายคนที่ 14 โดยมิได้หยุดเลย
แต่เมื่อเดินมาถึงเสี่ยวเหลียงจือ บุตรชายคนสุดท้อง ซึ่งยืนถือกระถางเปล่าที่ไม่มีทั้งต้นไม้และดอกไม้
ชายชราจึงหยุดกึกอยู่ตรงนั้น
เสี่ยวเหลียงจือ น้ำตาไหลพราก กล่าวกับบิดาอย่างสำนึกผิดว่า
“พ่อครับ ผมไม่มีดอกไม้สดที่จะมอบให้พ่อ…”
ชายชรากลับพูดอย่างยินดีปรีดาว่า
“ลูกเอ๋ย สิ่งที่เจ้ามอบให้พ่อนั้นมีค่ามากกว่าดอกไม้สดมากมายนัก”
“อะไรครับ ?”
“ความซื่อสัตย์ไงล่ะ….”
เรื่องราวมันเป็นอย่างไรกันแน่
ชายชราจึงเปิดเผยความลับต่อลูก ๆ ว่า ที่แท้เมล็ดพืชที่ตนแจกแก่ลูก ๆ นั้น เป็นเมล็ดพืชที่นำไปคั่วจนสุกแล้ว ดังนั้น มันจะงอกเป็นต้นไม้ ผลิดอกสดสวยได้อย่างไร
พวกที่ถือกระถางดอกไม้ซึ่งผลิดอกสวยงามนั้น ล้วนเป็นเมล็ดพืชจากที่อื่น ไม่ใช่เมล็ดพืชที่ผู้เป็นพ่อแจกให้ ดอกไม้พวกนั้นเป็นสักขีพยานยืนยันความไม่ซื่อตรงของพวกเขา
สุดท้าย….ชายชราจึงกล่าวอบรมลูก ๆ ขึ้นว่า …..
“ขอให้ลูก ๆ จงเป็นคนซื่อตรงเถิด ความซื่อตรงเป็นคุณสมบัติอันล้ำค่าของคนเรา”
ที่มา.http://prakal.wordpress.com/2014/10/24/นิทานสอนใจ-เมล็ดพืช
ประคัลภ์ ปัณฑพลังกูร / 5 วัน ago
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น